ออร์ก้าพาเที่ยว Ep.2 ชีวิตติดเกาะ นาวโอพี 3 วัน 2 คืน กับเต็นท์คาราวานสุดหรู

Mamy Booking - Blog

สวัสดีครับเพื่อนๆของน้องออร์ก้าทุกคน วันนี้มาพบกันอีกครั้งใน Ep.2 ซึ่งครั้งนี้น้องออร์ก้าจะพาเพื่อนๆไปติดเกาะสวรรค์ที่ตอนนี้ฮอตฮิตเป็นอย่างมากกันครับผม แต่เดี๋ยวก่อน! เห็นคำว่าติดเกาะก็อย่าเพิ่งตกใจไปครับ เพราะเกาะที่น้องออร์ก้าจะพาไปนั้นถือว่าเป็นสวรรค์แห่งใหม่เลยก็ว่าได้ น้องออร์ก้าจะพาไปเที่ยวที่เกาะนาวโอพี ทะเลพม่านั่นเอง ถ้าออกไปอีกนิดหนึ่งก็จะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างทะเลอันดามันกับมหาสมุทรอินเดียแล้วคร้าบ

และในครั้งนี้น้องออร์ก้าจะ road trip ไปที่จังหวัดระนองกันครับ

น้องออร์ก้าเดินทางมาที่จังหวัดระนองหนึ่งวันก่อนที่จะไปเที่ยวเกาะกันครับ เพราะต้องเตรียมตัวเตรียมร่างกายให้พร้อมและก่อนหน้าวันที่เดินทาง ทาง Mamy Booking จะโทรมาคอนเฟิร์มบุ๊คกิ้งของเรา ซึ่งจะมีรถของบริษัทมารับถึงหน้าโรงแรมเลยครับ แต่ถ้าเอามาเองก็สามารถแจ้งทาง Mamy Booking ได้นะครับว่าจะเดินทางไปท่าเรือเอง

วันต่อมาน้องออร์ก้าก็ตื่นมาตั้งแต่เช้า เพื่อมาเช็คเอ๊าท์ออกจากโรงแรมและเดินทางไปยังท่าเรือแกรนด์อันดามันครับ ใครที่ไม่มีรถก็ไม่ต้องกังวลนะครับ เพราะว่าประมาณ 7 โมงเช้า ทางบริษัททัวร์จะมีรถมารับถึงโรงแรมที่เพื่อนๆพักเลย สะดวกสบายมากๆ

โปรแกรมไปเที่ยวเกาะนาวโอพี เพื่อนๆจะต้องขึ้นเรือกันที่ท่าเรือแกรนด์อันดามัน ประมาณ 07.45 น. เราก็มาถึงบริเวณจุดรวมพลครับเพื่อเช็คอินครับ และในครั้งนี้เราใช้บริการของ Victoria Cliff ที่เป็นสัมปทานเจ้าเดียวของเกาะนาวโอพี ทั้งนี้รวมไปถึงในส่วนของที่พักด้วยครับ

ท่าเรือมีที่จอดรถมากพอสมควรเลยครับ สำหรับใครที่เอารถมาเองสามารถจอดไว้ที่ท่าเรือได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งบริเวณท่าเรือนั้นมีร้านกาแฟ ร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำ เสื้อผ้าต่างๆไว้พร้อม รวมถึงตู้ATMของธนาคารกรุงเทพที่อยู่ในตึกตรวจคนเข้าเมือง

เมื่อถึงบริเวณจุดเช็คอินแล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่เรียกเก็บบัตรประชาชนตัวจริงของเราครับ เพราะเจ้าหน้าที่จะนำบัตรประชาชนของเรา ไปดำเนินเอกสารผ่านแดนให้เองเลย หลังจากนั้นก็ทานอาหารเช้ากันเลยครับ

มีชากาแฟ และขนมให้ได้ทานรองท้อง

ทาง Victoria Cliff มีแซนด์วิชและขนมปังให้ ดูแลดีตั้งแต่ก่อนการเดินทางเลย น้องโอเค น้องชอบบบบบบ

หลังจากที่ทานของว่างยามเช้ากันเรียบร้อยแล้ว ประมาณ 08.15 น. พอมีเวลาให้ทาครีมกันแดดเล็กน้อย นั่งๆยืนๆแปปเดียวก็ถึงเวลาไปขึ้นเรือแล้วครับผม เราขึ้นเรือกันที่ท่าเรือแกรนด์อันดามัน บริเวณท่าเรือก็โปร่งโล่งสบาย มีตัวสะพานยื่นออกไปกลางทะเล มีรถกอล์ฟรับส่งกันจนถึงที่ขึ้นเรือเลย สบายมั่ก!! เรือออกก็ประมาณ 08.30 น. ครับ เลทจากตารางนิดหน่อย

ขึ้นเรือกันเลยครับ ในวันนี้เราไปพักกันบนเกาะ 3 วัน 2 คืน สามารถนำสัมภาระไว้ได้ที่ด้านหน้าของเรือเลยซึ่งเรือที่เรานั่งไปดำน้ำในวันนี้เป็นเรือSpeed Boat 3 เครื่องยนต์ครับ และผู้ที่จะพาน้องออร์ก้าและผู้ร่วมทริปไปเที่ยวในวันนี้ นั่นก็คือ พี่ไกด์หนุ่มและชาวคณะครับ แอบกระซิบว่าทีมนี้เค้าทำงานกันเป็นทีมมั่กๆ คอยให้ข้อมูลแบบเป็นกันเองสุดๆแถมยังขี้เล่นด้วย แหม่ เจอไกด์อารมณ์ดีแบบนี้ ทริปต้องสนุกทั้งวันแน่ๆ ผู้ร่วมทริปของน้องออร์ก้าวันนี้จะเป็นคนไทยซะส่วนใหญ่ครับ และจะเป็นกลุ่มครอบครัวมาพักผ่อน มาใช้วันหยุดร่วมกัน

เมื่อพร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลยดีกว่าครับ! 3 2 1 Let’s Go!!!!

ตารางการเดินทางไปเกาะนาวโอพีแบบคร่าวๆนะครับ จะเห็นได้ว่ามีเกาะเล็กเกาะน้อยเยอะแยะไปหมด เกาะนาวโอพีก็นู่นเลยจ้า ไกลลิบเลย แต่อยากไปดูของดี ก็ต้องทน

ซึ่งก่อนที่เราจะเดินทางไปยังเกาะต่างๆของน่านน้ำพม่า เราก็ต้องแวะทำเอกสารผ่านแดนกันที่เกาะสองก่อน นั่งเรือมาเกาะสองใช้เวลาประมาณ10นาที เกาะสองไม่ใช่เกาะนะครับ แต่เป็นแผ่นดินทางใต้สุดของประเทศพม่านะครับมีชื่อว่า Kawthuang เราก็จะได้เห็นคัลเจอร์ของชาวพม่าในเกาะสองกัน

นี่ครับ แปปเดียวก็เดินทางมาถึงเกาะสองแล้ว เราจะสังเกตได้ว่ามีเรือประมงท้องถิ่นของชาวบ้านที่นี่เยอะแยะมาก
เรือวิ่งเข้ามาใกล้ฝั่งมากเท่าไหร่ เราก็จะเห็นสถาปัตยกรรมของที่เกาะสองชัดเจน

เห็นตึกรูปร่างคล้ายวัดนั่นก็อย่าเพิ่งยกมือไหว้นะครับ เพราะไม่ใช่วัดแต่อย่างใด แต่มันคือร้านอาหาร!! ใช่ครับ อ่านไม่ผิดหรอก มันคือร้านอาหารครับ แต่ไม่ทันแล้ว..น้องออร์ก้ายกมือไหว้เรียบร้อย เขินจังเลย

มิงกาลาบาาาาาา ถึงเกาะสองแล้วจ้าาาาาาา
ซึ่งในตรงนี้ก็ใช้เวลาไม่นานครับ ไกด์จะเป็นคนดำเนินการให้เราหมดเลย ใช้เวลาไม่ถึง20นาทีก็เสร็จแล้วจ้า

ก่อนเรือออกจะมีเจ้าหน้าที่จากทางพม่ามาตรวจความเรียบร้อยบนเรือ เพื่อนๆต้องใส่เสื้อชูชีพกันด้วยนะครับ หากมีคนไม่ใส่เรือก็จะไม่ออก

นี่คือโฉมหน้าของกัปตันประจำเรือของเราครับ โกต้า กัปตันชาวเมียนมาร์ที่จะดูแลและพาเราไปยังเกาะต่างๆในทริปสามวันนี้ เรือออกปุ๊บ เราก็นั่งเรือยาวๆเลยคร้าบ ซึ่งระยะเวลาในการเดินทางไปยังเกาะนาวโอพีจากเกาะสอง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ เรือจะวิ่งผ่านเกาะเล็กเกาะน้อยต่างๆ

ซึ่งทางไกด์ก็ใช้เวลาได้เป็นประโยชน์มากครับ อธิบายกับผู้ร่วมทริปด้วยว่าทางฝั่งทะเลอันดามัน มีกระแสน้ำขึ้นน้ำลง วันละ2รอบด้วยกัน มีน้ำเช้า กับน้ำเย็น แถมทะเลฝั่งอันดามันเนี่ยเค็มกว่าฝั่งอ่าวไทย 3 ระดับด้วย

แต่เมื่อเรือวิ่งออกไปไกลเรื่อยๆ จะมีบางจุดที่ห้ามถ่ายรูปนะครับ จะเป็นบริเวณเกาะย่านเชือกหรือที่มีชื่อภาษาเมียนมาร์ว่า เกาะซาเดจี ซึ่งเกาะนี้จะเป็นฐานทัพของทหารครับ

เอาล่ะครับเวลาที่ทุกคนลอยคอ แฮ่!! รอคอยก็มาถึงแล้ว นั่นก็คือการดำน้ำนั่นเอง ก่อนลงดำน้ำนะครับ ทางพี่ไกด์หนุ่มก็ได้สาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ดำน้ำตื้นอย่างละเอียด และแจกหน้ากากดำน้ำให้กับทุกคน ใครจะเอามาเองก็ได้ครับ

ประมาณ 11.00น. เราก็มาถึงจุดดำน้ำจุดแรกครับ เกาะภูเขาไฟ คนว่ายน้ำไม่เป็นหรือไม่ค่อยเชี่ยวชาญทางทีมงานก็มีทุ่นเหมือนห่วงยางให้เราได้เกาะนะครับ บริเวณนี้จะมีปะการังอ่อนสีแดงเยอะมากๆ

ขึ้นเรือมาได้ซักแป๊บ พอลองเช็คเวลาดู นี่ถึงเวลาที่พี่ไกด์จะพาเราไปส่งยังเกาะและเช็คอินเข้าที่พักแล้วครับ ไปเกาะกันเลยคร้าบบบ

เห็นฝั่งอยู่ไกลๆแล้ววว ยิ่งเรือเข้าไปใกล้ฝั่งเท่าไหร่น้ำก็ยิ่งใส แถมยังมองเห็นแนวปะการังน้ำตื้นอีกด้วย ต้องหาเวลามาเล่นน้ำซักหน่อยแล้ว

ขึ้นเกาะมาปุ๊บ น้องออร์ก้าร์ก็เจอกับพี่ๆพนักงานชาวเมียนมาร์เสิร์ฟ Welcome Drink ก่อนเลย น่ารักมากกก ซึ่งเครื่องดื่มก็จะเป็น น้ำกระเจี๊ยบเปรี้ยวอมหวาน เย็นฉ่ำชื่นใจ สาเหตุที่เป็นน้ำกระเจี๊ยบก็เพราะว่า กระเจี๊ยบเป็นพืชพื้นเมืองของชาวเมียนมาร์เลย

เฮ้ย! นี่มันได้เวลาอาหารเที่ยงแล้วนี่หน่า เอาล่ะครับ ต้องมาลุ้นกันต่อว่าอาหารเที่ยงของเราในวันนี้จะเป็นอย่างไร ต่อมความหิวกระตุกขึ้นมาเลย ครั้งนี้เราก็จะทานข้าวกันบนเกาะเลย มาถึงเวลาที่ทุกๆท่านรอคอย(อีกแล้ว) อาหารมื้อกลางวันของเราเป็นบุฟเฟ่ต์ครับ!!!!! ไลน์อาหารมีให้เลือกเยอะพอสมควรครับ รวมไปถึงผลไม้ด้วย

เข้าแถวเรียงหนึ่งกันมาเลยครับลูกเพ่!

ในส่วนของรสชาติอาหารนะครับ สำหรับน้องออร์ก้าเองถือว่าใช้ได้เลย แต่จะไปทางรสชาติกลางๆ อาจจะเป็นเพราะต้องบริการให้กับนักท่องเที่ยวที่หลากหลายรวมไปถึงชาวต่างชาติ แต่ไม่เป็นไรจ้ะ น้องออร์ก้าเติมพริกน้ำปลาวนไปก็ได้ แต่จะมีซักที่ครั้งล่ะครับ ที่เราจะได้นั่งทานข้าวพร้อมกับวิวระดับล้านขนาดนี้ ดื่มดำบรรยากาศให้เต็มที่เลย

ทานข้าวเสร็จ ก็เข้าที่พักกันครับ และในครั้งนี้น้องออร์ก้าก็ได้ห้องพักเต็นท์แบบคูลๆ เป็นไงล่ะครับ ท่ามกลางธรรมชาติสุดๆ (เปิดเพลง welcome to the jungle คลอ) สามารถเดินทะลุออกไปหน้าหาดได้เลย เห็นเป็นเต็นท์แบบนี้แต่มีห้องน้ำในตัวทุกหลังเลยนะครับ สะดวกสบายมาก และไฟก็เปิด 24 ชม. ด้วย

สำรวจที่พักกันได้ซักพัก ก็ขอเดินเล่นซักหน่อย ทรายบนเกาะขาวและนุ่มมากๆเลยครับ ตัวหาดยาวพอสมควรเลย และได้สำรวจบริเวณเกาะนาวโอพีรอบๆครับ อยากจะบอกว่าน้ำเป็นสีฟ้าไล่ระดับเลย แถมยังใสมากกกกกกกกก และหาดทรายก็ขาว

มุมนี้นี่คือที่สุดเลยครับ นอนมองทะเลกว้างไกล เห็นเกาะเล็กเกาะน้อย ชิลสุดๆ ประทับใจอีกแล้ว สวยจนอยากจะร้องไห้ แต่ก็ต้องฮึบไว้ก่อน เราต้องเที่ยวต่อ! ไปครับ ทานข้าวเก็บของเสร็จแล้วเราก็ไปกันที่สถานที่ต่อไปเลย ประมาณ14.00 น. ขึ้นเรือกันเลย เราจะไปกันที่หาดมาดามครับ

ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ เราก็มาถึงที่หาดมาดามแล้วครับ
โอ้โหหหหหห เพื่อนๆครับ น้องออร์ก้าอยากจะบอกว่า ทรายตรงนี้นุ่มมากกกกก และขาวมากกก

เดินเล่นชิลๆ ฝั่งหาดมาดามมีบาร์เล็กๆ เปิดให้บริการด้วยนะครับ น้องออร์ก้าสั่งน้ำมะพร้าวไปหนึ่งลูก มาดื่มดับกระหายเล็กน้อย และบริเวณหาดมาดามก็สามารถดำน้ำตื้นได้เช่นกันครับ หรือถ้าไม่ดำก็สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้

แต่ก็นะครับ..ปะการังก็จะเป็นแบบนี้ ไม่ได้มีเยอะมาก อาจจะเป็นเพราะใกล้ฝั่งเกินไป จึงทำให้โดนกระแสน้ำพัดจนมีแตกหักไปบ้าง

เอาล่ะ! อย่าเพิ่งเซ็งไปครับ ขึ้นเรือกันดีกว่า เราจะไปดำน้ำกันที่จุดสุดท้ายของวันแล้วววววววว ซึ่งจุดสุดท้ายในวันนี้ก็คือเกาะ Letter ครับ ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าเกาะเล็ทเตอร์เพราะว่า โลเคชั่นตรงนี้ฉากในภาพยนตร์เรื่อง The Letter เลย ตรงนี้มีดอกไม้ทะเลเยอะมากๆ ไหนๆก็จะกลับแล้วน้องออร์ก้าขอให้เจอปะการังแบบสวยว้าวหน่อยเถ๊อะ!!

พร้อมแล้วก็ลงเลยครับ ตู้มมมมมม!!!
ช่วงนี้น้องออร์ก้าขอไม่อธิบายอะไรมากนะครับ ให้ภาพอธิบายแทนละกัน ว่าสิ่งที่น้องออร์ก้าขอไปเมื่อกี๊จะเป็นจริงหรือเปล่า

บริเวณนี้จะมีปะการังอ่อนสีแดงเยอะมากๆ

เจ้านีโม่ ออร์ก้ามาแล้วจ้าาาาาาาา

จุดดำน้ำจุดสุดท้ายจะมีดอกไม้ทะเลและปะการังเยอะมากๆเลยครับ รวมไปถึงเจ้าปลาเล็กปลาน้อยทั้งหลายแหล่ก็ยังมีให้เห็น โดยรวมแล้วอุดมสมบูรณ์สุดๆ ได้ลงมาดำน้ำแล้วเจอปะการังสวยๆแบบนี้ชีวิตน้องออร์ก้าก็คอมพลีทแล้วฮ้าบบบบบบ

ดำน้ำกันเหนื่อยๆ เรากลับไปยังที่พักก่อนดีกว่าครับ พักผ่อนเล็กน้อยที่ระเบียงหน้าเต็นท์ ขอบอกว่าบริเวณระเบียงนี้กว้างพอสมควรเลย

สำหรับใครที่ยังไหว ก็สามารถไปพายเรือคายักเล่นก็ได้นะครับ ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเลย

เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเย็น ก็เริ่มหิวกันอีกแล้ววววววว พิเศษตรงที่มีซีฟู๊ดสดๆย่างพร้อมเสิร์ฟให้เราเลยครับ

ถ้าใครกลัวไม่อิ่ม ก็ยังมีไลน์อาหารอื่นๆเป็นบุฟเฟ่ต์ให้เพื่อนๆได้เลือกทานได้อีกตามใจชอบ จะนั่งกินด้านในตัวห้องอาหาร หรือริมหาดก็ได้นะครับ แต่น้องออร์ก้าบอกเลยว่าริมหาดจะดีที่สุด เพราะไฮท์ไลท์ของวันไม่ได้หมดแค่นี้!

บรรยากาศกลางคืนบนเกาะนาวโอพีแห่งนี้จะไม่เงียเหงาอีกต่อไปครับ! เพราะคืนนี้ทางรีสอร์ทมีการแสดงสุดพิเศษที่จะมาโชว์ให้พวกเราดู เป็นการแสดงระบำพื้นบ้านแบบพม่า พี่ๆพนักงานแต่งชุดพื้นเมืองพม่ากันมาเลย น่าร๊ากกกกก

เท่าที่น้องออร์ก้าทราบมาก็คือบนเกาะนาวโอพี มีน้ำมีไฟให้ใช้ 24 ชั่วโมงเลย แต่จู่ๆไฟก็ดับทั้งเกาะซะงั้น! ตกใจไปได้ไม่ถึงนาที ก็ได้ชมโชว์ที่น่าตื่นเต้นอีกหนึ่งโชว์นั่นก็คือ การโชว์ควงไฟครับ แอบหวาดเสียวเล็กน้อย แต่พี่ๆพนักงานนี่โปรมากๆเลยครับ

วันแรกผ่านไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับเต็มอิ่มจุกๆกับบรรยากาศ อาหาร และโชว์จากพี่ๆพนักงานแล้ว ถึงเวลาที่เราต้องกลับไปพักผ่อนแล้วครับผม

อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน เข้าสู่วันที่ 2 บนเกาะนาวโอพีแล้วนะครับ สำหรับอาหารเช้าในวันนี้ก็เป็นบุฟเฟ่ต์เหมือนเดิมครับผม ทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว วันนี้เพื่อนๆสามารถเลือกดำน้ำที่เกาะเลทเทอร์ อ่าวผักกาด เกาะภูเขาไฟ และออกตามหากัลปังหากัน
09.00 น. ก็เริ่มออกเดินทางไปดำน้ำกันเลยครับ

ดำน้ำกันเหนื่อยๆแล้ว เราก็กลับขึ้นฝั่งมาทานข้าวเที่ยงกันดีกว่าครับผม ซึ่งน้องออร์ก้าชอบการบริการของพนักงานที่นี่มากๆครับ เพราะคอยเอาใจใส่ทุกอย่างเลย

อาหารมื้อกลางวันของเราเป็นบุฟเฟ่ต์เหมือนเดิมครับ ไลน์อาหารมีให้เลือกเยอะพอสมควรครับ รวมไปถึงผลไม้ด้วย ตารางวันนี้ก็เบาๆครับ ไม่มีอะไรมากเน้นพักผ่อนซะส่วนใหญ่ สำหรับใครที่อยากทานอาหารหรือสั่งเครื่องดื่มเพิ่มเติม ทางร้านก็มีเมนูไว้คอยให้บริการครับ สกุลเงินที่ใช้บนเกาะจะเป็นเงินสกุลไทยบาทและสกุลดอลล่าร์ครับ สามารถใช้ได้ทั้งสองสกุลเลย

เมื่อทานข้าวเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถพักผ่อนชิลๆหน้าหาด กลับไปพักผ่อนในเต็นท์ หรือออกไปพายเรือคายักได้ตามใจชอบเลยครับ

และกลับมาทานอาหารค่ำกันที่เดิมพร้อมชมการแสดงในยามค่ำคืน มีดนตรีโฟล์คซองจากคุณลุงพนักงานด้วย เสียงดีไม่มีตกจริงๆ สำหรับคืนที่สองก็ฝันดีราตรีสวัสดิ์นะคร้าบบบ

Good Morning ครับผมมมม เช้าวันที่3 วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่บนเกาะกันแล้วนะครับ ตื่นเช้าขึ้นมาก็ทานข้าวกันริมทะเลกันได้เลย ซึมซับบรรยากาศดีๆแบบนี้

อาหารเช้าวันสุดท้ายก็จะเป็นอาหารอ่อนๆเช่นโจ๊กไก่ครับผม
นั่งทานอาหารเช้าเคล้ากับบรรยากาศยามเช้าสบายๆบนเกาะ ระหว่างนี้เราก็มีเวลาชิลที่เกาะอีกหลายชั่วโมงเลยครับ เพราะเราจะเดินทางออกจากเกาะนาวโอพีในตอนบ่าย2

ระหว่างนี้น้องออร์ก้าก็ขอไปเดินเล่นชิลๆริมหาดดีกว่า

ชิลได้ถึง 10.30 น. เราก็ต้องกลับไปที่เต็นท์เพื่อเช็คของที่เราเก็บให้เรียบร้อย แล้วก็ออกมา Check out กันครับ Check out เสร็จปุ๊บ ก็ถึงเวลาทานอาหารเที่ยงอาหารมื้อสุดท้ายบนเกาะนาวโอพีแห่งนี้แล้วครับ

ถึงเวลาที่เราต้องจากเกาะนาวโอพีกันแล้วววววว เสียใจจจจ ขออยู่ต่อเลยได้มั้ยย เมื่อถึงเวลากลับบรรดาพนักงานและผู้จัดการของรีสอร์ทก็ตามมาส่งเราถึงเรือ พร้อมกับรอยยิ้มสุดจริงใจที่มอบให้กับทุกคน น้องออร์ก้าประทับใจมากๆเลยครับ

ตลอด 3 วัน 2 คืนที่ผ่านพี่ๆที่เกาะทุกคนดูแลดีมากๆเลย มีปัญหาอะไรสามารถแจ้งและก็แก้ปัญหาได้รวดเร็วมาก แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรานะครับ แล้วเจอกันใหม่นะนาวโอพี บ๊ายบายยยย

ขากลับก็หลับยาวๆเลยจ้า นั่งเรือมาได้ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เราก็แวะลงประทับตราขากลับกันที่เกาะสองเหมือนเดิมครับ
ประมาณ 17.00 น. เราก็กลับมาถึงท่าเรือฝั่งไทยอย่างปลอดภัย ขอบคุณพี่ไกด์หนุ่มและทีมงานนะครับที่คอยดูแลน้องออร์ก้าตลอดทั้ง 3 วัน 2 คืน ขอย้ำอีกเสียงว่าบริการดีมากกกกกกก สนุกมากๆเลย แถมเกาะก็ยังสวยสุดๆ ไว้มีโอกาสจะกลับไปอีกแน่นอน
น้องออร์ก้าของชี้แจ้งข้อสรุปของทริปนี้แบบสั้นๆเลยละกันจ้า
⦁ คนไทยอย่าลืมพกบัตรประชาชนตัวจริงไป เด็กใช้สำเนาสูติบัตร
⦁ ต่างชาติต้องขอ E-Visa ผ่านเว็บ https://evisa.moip.gov.mm/
⦁ ทะเลพม่าดีงามมากกก
⦁ ปะการังใต้น้ำอุดมสมบูรณ์สุดๆ ใครที่เป็นสายดำน้ำ น้องออร์ก้าขอแนะนำทะเลพม่าเลยครับ
⦁ คนที่จะมาเที่ยวทะเลพม่า น้องออร์ก้าขอแนะนำให้เตรียมร่างกายให้พร้อมนะครับ เพราะว่าตารางค่อนข้างโหดนิดนึง ดูแลสุขภาพกันด้วยเด้อ
⦁ สำหรับคนที่แพลนทริปนอนบนเกาะนาวโอพี 3 วัน 2 คืน น้องออร์ก้าขอแนะนำให้เข้าพักที่ระนองอีกเพิ่มอีกหนึ่งคืนครับ เนื่องด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่างเลย เพราะว่าทั้งตัวโปรแกรม และสายการบินที่มีไฟลท์ค่อนข้างน้อย อย่าลืมแพลนทริปกันให้ดีนะครับ
⦁ แนะนำให้บินตรงมาลงที่จังหวัดระนองเลยครับ เสียเงินเพิ่มนิดหน่อย แต่ประหยัดเวลาและสบายกว่าเยอะ ถือว่าคุ้ม!
⦁ ถ้าเพื่อนๆอยากเที่ยวในตัวเมืองสามารถจ้างรถรับจ้างได้ แต่ถ้าเช่ารถก็จะคุ้มกว่าเพราะ ระยะทางแต่ละที่ค่อนข้างไกล
⦁ ทะเลพม่าเปิดให้เที่ยวช่วงเดือนตุลาคม – พฤษภาคมของทุกปี

*เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำหรับทริปครั้งนี้นะครับ*
สิ่งของที่ควรเตรียมมาเที่ยวทะเล สายเที่ยวก็ชิลๆก็ได้ครับ สายถ่ายรูปก็อย่าลืม Action Camera ล่ะ สายสวยก็ต้องพร็อบเยอะๆเลย อิอิ
สำหรับการมาเที่ยวทะเลพม่า หลายๆคนก็อาจจะสงสัยว่า ต้องเที่ยวช่วงไหนดี ช่วงไหนลมไม่แรง ไม่เจอมรสุมน้องออร์ก้าได้เช็คมาให้เรียบร้อยแล้วครับ หมู่เกาะพม่าจะมีเวลาเปิดปิดเกาะในแต่ละปี ซึ่งสามารถเช็คได้จากลิ้งค์นี้เลย ประกาศปิดอุทยานแห่งชาติ ปี 2018 – Mamy Booking – Blog ซึ่งทะเลจะสวยงามได้ขนาดนี้ทุกคนก็อย่าลืมรักษาความสะอาดและปฏิบัติตนเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีกันด้วยนะคร้าบ
และทางหม่ามี๊บุ๊คกิ้งก็ยังมีทัวร์ทะเลพม่าอีกมากมายให้เพื่อนๆได้เลือกกัน สามารถเข้าไปดูกันได้ที่ลิ้งค์นี้ >> ทริปท่องเที่ยวทะเลพม่าและระนอง
และในวันนี้น้องออร์ก้าก็ต้องขอจบทริปติดเกาะนาวโอพีเพียงเท่านี้เด้อ ครั้งหน้าน้องออร์ก้าจะพาไปเที่ยวที่ไหนต่อก็อย่าลืมติดตามกันนะครับ แล้วเจอกันใหม่คร้าบบบบ บ๊ายบายยย

ติดตามเพิ่มเติมกันได้ที่
Facebook : www.facebook.com/mamybooking
Twitter : @Mamybooking
Youtube : Mamy Booking
Line : @Mamybooking