สวัสดีค่ะทุกคนนน  พบกับหม่ามี๊แบบนี้แน่นอนว่าหม่ามี๊ก็ต้องไม่พลาดนำสาระดีดีมาฝากทุกคนนะคะ และครั้งนี้เราจะไปเที่ยวกันในประเทศไทย อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า ประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีทั้งภูเขา ทะเล น้ำตก ศิลปะวัฒนธรรมที่สวยงาม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ที่พร้อมจะให้ทุกคนไปเรียนรู้และเปิดหูเปิดตากัน  

หม่ามี๊ขอรวบรวม 10 จังหวัดในประเทศไทยสุดฮิตที่โดนใจนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศมาฝากทุกคนกันค่ะ เรียกได้ว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ ต้องห้ามพลาดเด็ดขาดเลยล่ะ จะมีจังหวัดอะไรบ้างนั้นต้องไปชมกันเลยค่า

(ขอบคุณภาพจาก www.bangkok.com)

1.กรุงเทพมหานคร

เราจะขาดเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครไปได้อย่างไรล่ะค่ะ เมืองแห่งศูนย์กลางการปกครอง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม เมืองที่นักท่องเที่ยวต่างชาติหลายๆคนต้องมาถึงเป็นที่แรกและได้สัมผัสกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม อาหาร และกิจกรรมต่างๆ ที่มีให้เลือกหลากหลาย อีกทั้งยังรวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยว ศาสนสถานที่สวยงามไม่แพ้เมืองใดในโลก สมกับคำขวัญที่มีว่า “กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง เมืองศูนย์กลางการปกครอง วัดวังงามเรืองรอง เมืองหลวงของประเทศไทย” ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Dream Destination ของคนทั่วโลกที่จะต้องมาที่กรุงเทพฯ ให้ได้ซักครั้งในชีวิตเลยค่ะ

(ขอบคุณภาพจาก https://sites.google.com/site/5xandabsthanthwthinapi/5xandab-sthan-thi-thxng-theiyw-ni-phuket-thi-na-pi )

2.ภูเก็ต

หากถามนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่มีใครไม่รู้จักภูเก็ต ภูเก็ตเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ผู้คนเลือกที่มาจะมาท่องเที่ยว และสัมผัสให้ได้ซักครั้งในชีวิตอีกเช่นกัน ภูเก็ตเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและถือว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดในตอนใต้ของประเทศไทย ในเขตทะเลอันดามัน มีแหล่งท่องเที่ยวแบบครบเครื่องและจัดเต็มในทุกๆด้าน ทั้งทะเล ชายหาด เกาะเล็กเกาะน้อยรอบๆภูเก็ต กิจกรรมเอ็กซ์ตรีม รวมไปถึงสถาปัตยกรรมย่านเมืองเก่าที่มีเอกลักษณ์ และอาหารอีกมากมายหลายร้าน ที่ได้ยูเนสโกมายืนยันและการันตีว่า ภูเก็ตเป็นเมืองแห่งอาหาร สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูเลยล่ะค่ะ

3.สุราษฎร์ธานี

เราได้ไปเที่ยวที่ฝั่งอันดามันกันมาแล้ว ต่อไปหม่ามี๊ขอพาเพื่อนๆไปฝั่งอ่าวไทยกันบ้างนะคะ ซึ่งนั่นก็คือจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั่นเองค่ะ จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีที่เที่ยวครบ ทั้งป่า เขา ทะเล และหมู่เกาะต่างๆอีกมากมาย ซึ่งสถานที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้แก่ เขื่อนรัชชประภาหรือที่เรารู้จักกันในนาม เขื่อนเชี่ยวหลานนั่นเองค่ะ และเกาะที่ได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและต่างชาตินั่นก็คือ เกาะสมุย เกาะพงันและเกาะเต่านั่นเองค่ะ แต่ที่ดังระดับโลกนั่นก็คือเกาะพงันที่เป็นสถานที่จัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ ที่มีชาวต่างชาติทุกชาติในโลก ตั้งไว้เป็นหนึ่งใน bucket list ที่ต้องมาซักครั้งในชีวิตให้ได้เลย

(ขอบคุณภาพ https://he.wikipedia.org )

4.เชียงใหม่

หากถามว่าหน้าหนาวนี้เที่ยวที่ไหนดี จังหวัดแรกที่เพื่อนๆจะนึกถึงนั้นก็ต้องเป็นจังหวัดเชียงใหม่อย่างแน่นอนเลยใช่มั้ยล่ะคะ เพราะว่าเชียงใหม่เนี่ย เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจหลักในภาคเหนือตอนบน เป็นจังหวัดที่มีวัฒนธรรมที่เด่นชัด ไม่ว่าช่วงไหนก็สามารถเที่ยวได้ มีทั้งวัดวาอาราม ธรรมชาติที่รอให้ผู้คนไปเชยชม ย่านบันเทิงที่สามารถให้เพื่อนๆได้ไปสนุกกัน หรือเพื่อนๆจะขึ้นดอยไปดูดาวก็โรแมนติกไปอีกแบบ และในปัจจุบันนั้นเชียงใหม่ก็เป็นที่เที่ยวของชาวฮิปสเตอร์ ชาวสโลว์ไลฟ์ เพราะมีร้านคาเฟ่แนวๆ รวมถึงงานแฮนด์คราฟท์ที่สามารถให้ทุกคนได้ไปนั่งชิลหรือทดลองทำ ถ่ายรูปอัพลงโซเชี่ยลได้ไม่ซ้ำร้านกันเลยทีเดียว

(ขอบคุณภาพจากhttps://en.wikipedia.org/wiki/Nan,_Thailand#/media/File:Wat_Phra_That_Khao_Noi.jpg)

5.น่าน

“ต่อนยอน ต๊ะตอนยอน” นี่คงจะเป็นคำจำกัดความที่หม่ามี๊คิดว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับเมืองน่านแล้วล่ะค่ะ จังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย มีศิลปะที่สวยงาม รวมอารยธรรมทั้ง3ไว้ด้วยกัน นั่นก็คือ พม่า ล้านนา ล้านช้าง ซึ่งในปัจจุบันนี้นั้น น่านเป็นจังหวัดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวสไลต์ฮิปสเตอร์ อยากใช้วิธีสโลว์ไลฟ์ เป็นเมืองที่เหมาะกับการปั่นจักรยานชมเมือง รับอากาศบริสุทธิ์เย็นสบาย ดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งขุนเขา และก็ต้องไม่พลาดกับจิตรกรรมฝาผนังที่มีชื่อเสียง ที่ทุกคนต้องมาเห็นกับตาตัวเองให้ได้เลย นั่นก็คือ จิตรกรรมปู่ม่านย่าม่านกระซิบรัก หรือออกไปรับอากาศบริสุทธิ์ที่

อ.ปัว พร้อมถ่ายรูปชิคๆลงอินสตาแกรมก็เก๋ไปอีกแบบนะ

(ขอบคุณภาพจาก https://thai.tourismthailand.org)

6.กาญจนบุรี

กาญจนบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศไทย อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักผ่อนและธรรมชาตินั้นยังคงอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจ หรือหนีรถติดจากเมืองหลวง อีกทั้งจังหวัดกาญจนบุรีนั้นเป็นเมืองที่มีประวัติศาตร์ที่ยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นสงครามโลกครั้งที่2 ที่เป็นต้นกำเนิดของสะพานข้ามแม่น้ำแคว และทางรถไฟสายมรณะด้วยค่ะ ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอีกหลายแห่งอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการล่องแพในแม่น้ำแคว หรือไปเล่นน้ำที่น้ำตกไทรโยค หรืออีกหนึ่งสถานที่ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์อย่างสังขละบุรี ที่มีสะพานมอญเป็น Landmark ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย

(ขอบคุณภาพจาก www.bangkok.com)

7.พระนครศรีอยุธยา

“บัดนี้ถึงเพลาที่ข้าจะพาออเจ้าทั้งหลายไปเที่ยวชมอยุธยาแล้วหนา~” ประโยคแบบนี้ เพื่อนๆรู้สึกคุ้นๆมั้ยคะ? หม่ามี๊ก็ขอเกาะกระแสละครบุพเพสันนิวาสที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากคนไทยซักหน่อยละกัน เดี๋ยวเค้าจะหาว่าตกเทรนด์เนอะ จังหวัดต่อไปที่หม่ามี๊จะพาทุกคนไปนั่นก็คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่าอยุธยานั่นเอง อยุธยาเป็นจังหวัดที่่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะไม่แพ้จังหวัดอื่นๆเลย ได้รับความนิยมจากชาวไทยและชาวต่างชาติ สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ง่ายๆ หรือจะปั่นจักรยานชมกรุงเก่า สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ให้เราได้ไปเยี่ยมชมและรับความรู้ และยังมีวัดวาอารามที่สวยงามให้เราไปสักการะบูชาเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตอีกด้วยค่ะ

(ขอบคุณภาพจาก http://packagetour.biz/tourist-spots/sukhothai-historical-park-in-thailand.html)

8.สุโขทัย

อีกหนึ่งราชธานีเก่าของไทยที่เพื่อนๆทุกคนห้ามพลาดนั่นก็คือ จังหวัดสุโขทัยค่ะ สุโขทัยนั้นมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน และการท่องเที่ยวที่โดดเด่นเลยก็คือการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม คนไทยไปก็เหมือนได้ย้อนอดีต ต่างชาติไปก็เหมือนไปเรียนรู้อดีตของไทย แต่ยังไม่หมดเพียงแค่นี้นะคะ เพราะจังหวัดสุโขทัยเนี่ย ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างอุทยานแห่งชาติรามคำแหง ที่ป่าเขายังคงความอุดมสมบูรณ์ไว้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีเสน่ห์มากมายเลยทีเดียว

(ขอบคุณภาพจาก http://travel-unseen-in-thailand.blogspot.com/2012/01/pang-ung-mae-hong-son-thailand.html)

9.แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย มีประชากรบางเบา แต่มีความโดดเด่นในหลายลักษณะ โดยเฉพาะภูมิประเทศ ความหลากหลายความวัฒนธรรม และความหลากหลายของชาติพันธุ์ชนเผ่าต่างๆ ได้อีกสมญานามว่า “เมืองสามหมอก” เพราะว่ามีหมอกปกคลุมทั้ง3ฤดูเลย เพื่อนๆจะได้เจอท้องไร่ ท้องทะเลหมอก และขุนเขา มีอากาศที่หนาวเย็น สถานที่ดังที่หลายๆคนรู้จักและได้รับความนิยมมากที่สุด นั่นก็คืออำเภอปายหรือเมืองปาย หรือปางอุ๋งที่เป็นหนึ่งโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โดยพระองค์มีพระประสงค์ที่จะฟื้นฟูสภาพป่าและระบบนิเวศให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ปางอุ๋งเลยกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและโรแมนติกมากๆ

(ขอบคุณภาพจาก https://th.wikipedia.org)

10.บุรีรัมย์

และก็มาถึงจีงหวัดสุดท้ายที่หม่ามี๊จะมาแนะนำค่ะ นั่นก็คือจังหวัดบุรีรัมย์ทางภาคอีสานหรือเมืองแห่งปราสาทสองยุคของเรานั่นเอง หลายๆคนอาจจะมองข้ามจังหวัดเล็กๆนี้ แต่หม่ามี๊อยากจะบอกว่าสถานที่ท่องเที่ยวนั้นไม่แพ้ที่ใดในประเทศเลย บุรีรัมย์เป็นเมืองที่พัฒนาให้เป็นเมืองแห่งการกีฬา โดยมีสโมสรชื่อดังอย่าง “บุรีรัมย์ยูไนเต็ด” และสนามฟุตบอลที่เลื่องชื่อลือนาม ที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ “ธันเดอร์ คาสเซิล สเตเดี้ยม” เป็นสนามฟุตบอลที่สร้างจากแนวคิดสถาปัตยกรรมปราสาทเขาพนมรุ้งนั่นเอง แถมยังสามารถจุผู้ชมได้ถึง 24,000 ที่นั่งเลยทีเดียว อีกสถานที่แห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อระดับโลก นั่นก็คือ ปราสาหินพนมรุ้ง ที่ตอนนี้กำลังถูกเสนอชื่อให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย ซึ่งปราสาทพนมรุ้งเป็นอีกหนึ่งปราสาทหินขอมของไทยที่มีชื่อเสียงมากทีสุด

เห็นมั้ยล่ะคะว่าประเทศไทยของเรานั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามเยอะแยะมากมายให้เราได้เลือกไปเที่ยวชมกัน แต่ละที่ก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป แถมยังเที่ยวได้ทุกฤดูอีก ของดีมีอยู่ใกล้ตัวจริงๆค่ะ ถ้าหากมีเวลาเพื่อนๆลองออกไปเปิดประสบการณ์ดูนะคะ รับรองว่าติดใจต้องกลับไปอีกครั้งอย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก

www.hotelandresortthailand.com

https://today.line.me/th